กองทัพเรือในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพ.ศ.๒๕๖๒ ได้จัดทำนโยบายคุ้มคร้องข้อมูลส่วนบุคคลนี้ขึ้นเพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ หลักการ และมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของกองทัพเรือ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ดำเนินการโดยกองทัพเรือ เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกองทัพเรือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ฯ ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมืองความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่นเก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอนรวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมตาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่กองทัพเรือเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจากกองทัพเรือ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ฯ
กองทัพเรือจะเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
๑. ข้อมูลส่วนบุคคลที่กองทัพเรือเก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจบริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดยกองทัพเรือ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับกองทัพเรือ ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดยกองทัพเรือ เป็นต้น
๒. ข้อมูลที่กองทัพเรือเก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจของกองทัพเรือ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไชต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของกองทัพเรือด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
๓. ข้อมูลส่วนบุคคลที่กองทัพเรือเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่กองทัพเรือ เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นในฐานะที่กองทัพเรือมีหน้าที่ตามพันธกิจในการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการประชาชน รวมถึงจากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้
๔. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบุคคลอื่นที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคลากรของกองทัพเรือ โดยบุคลากรของกองทัพเรือเป็นผู้ให้ข้อมูล เช่น คู่สมรส บุตร บิดา มารดา บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน ผู้รับผลประโยชน์ เป็นต้นทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของกองทัพเรือ อาจเป็นผลให้กองทัพเรือไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือ
บางส่วน
กองทัพเรือพิจารณากำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามความเหมาะสมและบริบทการให้บริการ โดยใช้ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล | รายละเอียด |
เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัย หรือสถิติที่สำคัญ |
เพื่อให้กองทัพเรือสามารถจัดทำหรือสนับสนุนการจัดทำเอกสารหรือสถิติที่สำคัญ ประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติตามที่กองทัพเรืออาจได้รับมอบหมาย เช่น การจัดทำทำเนียบผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพหรือคณะกรรมการ การจัดทำสถิติการใช้บริการระบบดิจิทัลของกองทัพเรือ งานติดตามการดำเนินนโยบายรัฐบาลดิจิทัล เป็นต้น |
เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล |
เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เช่น การให้บริการทางการแพทย์โดยหน่วยงานของกองทัพเรือ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนค้านการสาธารณสุขให้กับรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐ เป็นต้น |
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อให้กองทัพเรือ สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือดำเนินการอันเป็นความจำเป็นต่อการเข้าทำสัญญาระหว่างกองทัพเรือกับคู่สัญญา เช่น สัญญาจ้างก่อสร้าง สัญญาจ้างทั่วไปสัญญาซื้อขาย สัญญารับทุนการศึกษา สัญญาเข้ารับการศึกษาสัญญาจ้างพนักงานราชการ สัญญาที่เกี่ยวข้องกับ การจัดสวัสดิการกองทัพเรือ การทำบันทึกความร่วมมือหรือสัญญาในรูปแบบอื่น เป็นต้น |
เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้อำนาจรัฐที่กองทัพเรือได้รับ |
เพื่อให้กองทัพเรือสามารถใช้อำนาจรัฐและตำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะตามพันธกิจของกองทัพเรือ ซึ่งกำหนดไว้ตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เป็นตัน |
เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อประโยชน์โดยชอบตัวยกฎหมายของกองทัพเรือและของบุคคลอื่น ซึ่งประโยชน์ตังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่นการรักษาความปลอดภัยสถานที่และอาคารของกองทัพเรือ หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกิจการภายในของกองทัพเรือ เป็นตัน |
เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย |
เพื่อให้กองทัพเรือสามารถดำเนินการตามภารกิจ หน้าที่และอำนาจตามที่มีกฎหมายกำหนด เช่น พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการ รกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๓ พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ชองส่วนราชการกองทัพเรือ กองทัพไทยกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕- พระราชบัญญัติการรับราชการทหารพ.ศ.๒๔๙๗ พระราชบัญญัติวินัยทหาร พ.ศ.๒๔๗๖ กฎหมายให้อำนาจทหารเรือ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการของกองทัพเรือ รวมถึง กฎ ระเบียบ คำสั่ง มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการตามคำสั่งศาลเป็นต้น |
ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
เพื่อการก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่กองทัพเรือจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยใด้มีการแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมใช้ หรื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการขอความยินยอมแล้วเช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่เป็นไปตามข้อยกเว้นมาตรา ๒๔ หรือ ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ฯ |
ในกรณีที่กองทัพเรือมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลข้างต้น หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้กองทัพเรือ ไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
กองทัพเรืออาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ โดยขึ้นอยู่กับบริการหรือบริบทความสัมพันธ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีกับกองทัพเรือ รวมถึงข้อพิจารณาอื่นที่มีผลกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล |
รายละเอียดและตัวอย่าง |
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล |
ข้อมูลระบุชื่อเรียกของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อนามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือซื่อเลขประจำตัวประชาชน สัญชาติ เลขที่ใบขับขี่ เลขที่หนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนบ้าน หมายเลขใบประกอบการหมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ (สำหรับแต่ละอาชีพ)เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล |
ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่นวันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก อายุ สถานภาพการสมรสสถานภาพ การเกณฑ์ทหาร รูปถ่าย ภาษาที่ใช้ ข้อมูลพฤติกรรมความชื่นชอบ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น |
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ |
ข้อมูลเพื่อการติดต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสารไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่ทางไปรษณีย์ สถานที่ทำงาน ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ (Line ID MS Teams แผนที่ตั้งที่พัก เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา |
รายละเอียดการจ้างงาน รวมถึงประวัติการทำงานและประวัติการศึกษา เช่น ประเภทการจ้างงาน อาชีพ ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ความเชี่ยวชาญ สถานภาพใบอนุญาตทำงาน ข้อมูลบุคคลอ้างอิงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ประวัติการดำรงตำแหน่ง ประวัติการทำงาน ข้อมูลเงินเดือน วันเริ่มงาน วันออกจากงานผลการประเมิน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ พัสดุในครอบครองของผู้ปฏิบัติงาน ผลงาน หมายเลขบัญชีธนาคาร สถาบันการศึกษาวุฒิการศึกษา ผลการศึกษา วันที่สำเร็จการศึกษา เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม |
ข้อมูลความสัมพันธ์ทางสังคมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่นสถานภาพทางการเมือง การดำรงตำแหน่งทางการเมืองการดำรงตำแหน่งกรรมการ ความสัมพันธ์กับกำลังพลของกองทัพเรือ ข้อมูลการเป็นผู้มีสัญญาจ้างกับกองทัพเรือ ข้อมูลการเป็นผู้มีส่วนไต้เสียในกิจการที่ทำกับกองทัพเรือ เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของกองทัพเรือ |
รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของกองทัพเรือ เช่นชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน หมายเลข PIN ข้อมูล Single Sign-on(SSO ID) รหัส OTP ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลระบุพิกัต ภาพถ่าย วีดีโอ บันทึกเสียง ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไชต์ แอปพลิเคชันต่าง ๆ หรือสื่อสังคมออนไลน์ที่อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ ประวัติการสืบค้น คุกกี้ หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน (Device ID) หมายเลขอุปกรณ์ประเภทอุปกรณ์ รายละเอียดการเชื่อมต่อ ข้อมูล Browserภาษาที่ใช้งาน ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน เป็นต้น |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ความพิการความเห็นทางการเมือง ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพภาพจำลองใบหน้า ลายนิ้วมือ ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น |
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกองทัพเรือเป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
กองทัพเรือดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพเรือทั้งด้านความมั่นคงทางทหาร การสมัครงาน การรับเข้าเป็นนักเรียนทหาร การบริการด้านการแพทย์การบริการประชาชน คู่สัญญา และวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามอำนาจหน้าที่ของกองทัพเรือ ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ของท่านกับกองทัพเรือ หรือช้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำตัญ โตยวัตถุประสงศ์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคลลของกองทัพเรือเป็นการทั่วไป อาทิ้
๑. เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการดำเนินภารกิจตามอำนาจหน้าที่ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง หรือเป็นการจำเป็นเพื่อใช้อำนาจทางกฎหมายที่กองทัพเรือมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามพันธกิจ
๒. เพื่อให้บริการและบริหารจัดการบริการของกองทัพเรือ ทั้งการตำเนินการตามพันธกิจและ
๓. เพื่อการดำเนินการทางธุรกรรมต่าง ๆ ของกองทัพเรือเพื่อควบคุมดูแล ใช้งาน ติดตาม ตรวจสอบและบริหารจัดการบริการ ในการอำนวยความสะดวกและสอดลล้องกับความมุ่งหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
๕. เพื่อเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลอันเกี๋ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งเอกสารที่มีการกล่าวอ้างถึงเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
๖. เพื่อจัดทำบันทึกรายการการประมวลผลข้มูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
๗. เพื่อวิเคราะห์ข้อมูส รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับบริการของกองทัพเรือ
๘. เพื่อตำเนินการตามที่จำเป็นในการบริหารจัดการภายในกองทัพเรือ
๔. เพื่อป้องกัน ตรวจจับ หลีกเสี่ยง และตรวจสอบการฉ้อโกง กา ารละมิดความปลอดภัย หรือการกระทำที่ต้องห้ามหรือผิตกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้งกองทัพเรือและเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
๑๐. เพื่อยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูลของเจ้าของช้อมูลส่วนบุคคล เมื่อมีการสมัครใช้บริการของกองทัพเรือ หรือติดต่อใช้บริการ หรือใช้สิทธิตามกฎหมาย
๑๑. เพื่อปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการบริการและการดำเนินการต่ง ๆ ของกองทัพเรือ
๑๒. เพื่อประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยง
๑๓. เพื่อส่งการแจ้งเตือน การยืนยันการทำคำสั่ง ติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวสารไปยังเจ้าของข้อมูลส่วนบุตคล
๑๔. เพื่อจัดทำและส่งมอบเอกสารหรือข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องและจำเป็น
๑๕. เพื่อยืนยันตัวตน หรือเพื่อป้องกันการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือผิดกฎหมาย
๑๖. เพื่อตรวจสอบการเข้าถึงและใช้บริการของกองทัพเรือ ทั้งในภาพรวมและรายบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการค้นคว้าและการวิเคราะห์
๑๗. เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการปฏิบัติตามหน้าที่ที่กองทัพเรือมีต่อหน่วยงานที่มีอำนาจควบคุม การบังคับใช้กฎหมาย หรือภาระผูกพันตามกฎหมายของกองทัพเรือ
๑๘. เพื่อตำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎ มายของกองทัพเรือ หรือของบุคคลอื่น หรือของนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของกองทัพเรือ
๑๙. เพื่อการบริการสาธารณสุข การรักษาโรค งานด้านสุขภาพ การป้องกันหรือหยุดยั้งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
๒๐. เพื่อจัดเตรียมเอกสารทางประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์สาธารณะ การคันคว้า หรือจัดทำสถิติที่กองทัพเรือได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ
๒๑. เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งศาล คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ ประวัติอาชญากรรม การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ต้ระบุไว้ข้างตัน กองทัพเรืออาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลตังต่อไปนี้
ประเภทบุคคลผู้รับข้อมูล |
รายละเอียด |
หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่กองทัพเรือต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามกฎหมายหรือวัตถุประสงศ์สำคัญอื่น |
หน่วยงานผู้บังคับใชักฎหมาย หรือมีอำนาจควบคุมกำกับดูแล หรือมีวัตถุประสงค์อื่นที่มีความสำคัญ เช่นคณะรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทยศาล สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรมบัญชีกลางกรมควบคุมโรค เป็นต้น |
คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายของกองทัพเรือ |
กองทัพเรืออาจเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลแก่บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะต่าง ๆ |
คู่สัญญาซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสวัสติการของผู้ปฏิบัติงานของกองทัพเรือ |
บุคคลภายนอกที่กองทัพเรือจัดซื้อจัดจ้างให้ดำเนินการเกี่ยวกับสวัสติการ |
ผู้ให้บริการ |
กองทัพเรืออาจมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ให้บริการแทนหรือสนับสนุนการดำเนินการของกองทัพเรือ เช่นผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการโทรศัพท์ ผู้ให้บริการด้าน Digital ID ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการด้านการบริหารความเสี่ยง ที่ปรึกษาภายนอก เป็นตัน |
ผู้รับข้อมูลประเภทอื่น |
กองทัพเรืออาจเปีดเผยข้อมูลให้แก่บุคคลผู้รับข้อมูลประเภทอื่น เช่น หน่วยงานอื่นภายใต้กระทรวงกลาโหมโรงพยาบาล สถานศึกษา หรือหน่วยงานอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับบริการของกองทัพเรือ |
การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ |
กองทัพเรืออาจเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อสาธารณะในกรณีที่จำเป็น เช่นการดำเนินการที่กำหนดให้กองทัพเรือต้องประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาหรือมติคณะรัฐมนตรี เป็นต้น |
ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ช้างตันเป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกองทัพเรือเป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะบุคคลผู้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
กองทัพเรือจะเก็บรักษาช้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์นการเก็บรวบรวมข้อมูล ตามรายละเอียดที่ใต้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกุฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพันระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว กองทัพเรือจะทำการสบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคลหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาทการใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล กองทัพเรือขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด
กองทัพเรือจะจัตให้มีมาตรการปกป้องช้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัตสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลตังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยืตมั่นและปฏิบัติตามมาต ตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของกองทัพเรืออย่างเคร่งครัต ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของช้อมูลส่วนบุคคลที่รับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดยมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของกองทัพเรือทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทศนิค เป็นมาตรการที่ใต้มาตรฐานสากลและเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนดนอกจากนี้ เมื่อกองทัพเรือมีการส่ง โอนหรือเปิดผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น กองทัพเรือจะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อยืนยันว่าช้อมูลส่วนบุคคลที่กองทัพเรือเก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
กองทัพเรือตระหนักถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ๆ ได้แก่ สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องสิทธิ์ในการขอโห้ลบข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการตัตค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม และสิทธิในการขอรับส่งหรือโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลการนี้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกองทัพเรือจะดำเนินการพิจารณาสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
การบริการของกองทัพเรืออาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สามซึ่งเว็บไซต์หรือบริการตังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ กองทัพเรือขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ กองทัพเรือไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มรองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไชหรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิตชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกองทัพเรือที่ได้รับการแต่งตั้ง มีหน้าที่ตรวจสอบ กำกับและให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กองทัพเรืออาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เห็นสมควร เพื่อให้สอตคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและการตำเนินงานของกองทัพเรือ รวมถึงอาจปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับความคิตเห็นและข้อเสนอแนะจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยกองทัพเรือจะประกาศแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนเริ่มดำเนินการตามช่องทางการสื่อสารของกองทัพเรือ ภายหลังการบังคับใช้นโยบายฉบับนี้ให้ถือเป็นการรับทราบข้อตกลงในนโยบายและแนวปฏิบัตินี้แล้ว
สถานที่ติดต่อ : กองทัพเรือ พระราชวังเดิม ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐
เว็บไซต์ : www.navy.mi.th
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ : [email protected]
โทร. o ๒๔๖๖ ๑๑๘๐
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้